ประวัติgene lab ค่ายของคนยีนใหม่ เปรียบเป็นห้องทดลอง ทางด้านดนตรี จนเป็นที่รู้จัก!
ประวัติgene lab จุดเริ่มต้นแนวคิดใหม่ กับการเป็นศิลปิน ที่ไม่ต้องยึดติด กับกรอบศิลปินเดิม ๆ ทำให้ตรงกับความต้องการ ของวัยรุ่นสมัยนี้อย่างมาก เพราะเราจะเห็นบ่อย ไม่ว่าจะศิลปิน หรือนักแสดง ล้วนก็อยากเป็นตัวเอง ไม่ต้องมีคนบอก ว่าเราควรแต่งตัวแบบนี้ หรือวางตัวแบบนี้ ที่ไม่เป็นตัวเอง เลยตัดสินใจ ที่จะตั้งตัว เป็นศิลปินอิสระกันเสียเยอะ ถึงแม้จะรู้ว่า มีความเสี่ยงกว่า กับการเป็นที่ไม่รู้จัก หรือรู้จักในวงเล็ก ๆ เท่านั้น
ประวัติgene lab Gene Lab ประวัติ ที่น่าสนใจ จากการร่วมมือกัน ระหว่างโอม Cocktail และพี่นิค วิเชียร อดีตผู้บริหาร จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
gene lab วิกิพีเดีย จุดเริ่มต้นนี้ เริ่มมาจากการครบรอบ 20 ปี ของค่ายจีนี่เรคคอร์ด (Genie Records) ค่ายเพลงย่อยแนว Rock ชื่อดังจากบริษัทใหญ่อย่าง GMM Grammy ที่พาวงการเพลง เข้าสู่ตลาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Cocktail, Body Slam, Potato, Bigass หรือ The mousses เป็นต้น ที่คนฟังเพลง ต่างรู้จักกันดี
ซึ่ง gene lab ผู้บริหาร โอมค็อกเทล หรือโอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ มองว่าอยากจะให้ มีศิลปินหน้าใหม่ ๆ ที่ไม่เคยอยู่ ในค่ายใดมาก่อน เข้ามาร่วมงานกัน Gene Lab คือ สถานที่พิสูจน์ หรือเรียกว่าเป็น ห้องทดลองถึงตัวตน และความสามารถที่แท้จริง ของศิลปินกลุ่มนั้น แม้ไม่เคยมีชื่อเสียง และทำให้พวกเขา เป็นที่รู้จัก และถูกยอมรับมากกว่าที่เคย ที่สำคัญที่สุด ให้เขาได้เป็น แบบที่อยากเป็น
gene lab อ่านว่า ยีนแล็บ แปลงมาจากคำว่า Genie จากค่ายเดิมนั่นเอง แต่ตัดตัว i ออก เพื่อให้เป็นยีน ของห้องทดลองใหม่ ที่จะแสดงให้แฟน ๆ เห็น ว่าพวกเขานั้นเจ๋งยังไง ? มีอะไรแตกต่าง จากศิลปินค่ายอื่น
แต่ละเนื้องาน ที่ถูกถ่ายทอดออกมา ไม่ว่าจะเป็นดนตรี เพลง หรือการนำเสนอผลงานอื่น ๆ ที่ออกมา ล้วนมาจากศิลปินล้วน ๆ ไม่ผ่านเจ้าหน้าที่ หรือคนควบคุมอีกทีเลย ทำให้ศิลปินมีอิสระ
ซึ่งทุกวงก่อนที่จะ เข้ามาในห้องทดลองนี้ได้ ก็ต้องผ่านการประกวดเวที Band Lab มาก่อน ซึ่งแต่ละวง จะได้รับโจทย์ที่ไม่เหมือนกันเลย ซึ่งแน่นอนว่า แต่ละวงในปัจจุบัน ที่ผ่านเข้ามานี้ ล้วนมีเอกลักษณ์ และมี’ของ’กันจริง ๆ จะมีวงอะไรบ้างในค่ายนี้ มาดูกัน!
ไททศมิตร หรือ Taitosmith วงที่นิยามคำว่า “เพลงเพื่อชีวิตยุคใหม่”
Gene Lab ศิลปิน วงไททศมิตร เป็นการรวมตัว ของคนที่มีแนวทาง ด้านดนตรีที่ชัดเจน รักในเพลงเพื่อชีวิต โดยหากนึกถึงสมัยก่อน ก็จะนึกถึงวงคาราบาว หรือมาลีฮวนน่า เป็นต้น
ซึ่งเสน่ห์ของเพลงเพื่อชีวิต จะไม่ได้พูดถึง เฉพาะเรื่องความรักเป็นหลัก เหมือนเพลงยุคนี้ แต่พูดไปถึงเศรษฐกิจ สังคม ความเป็นอยู่ การเมือง ความเป็นมนุษย์ธรรมดา Taitosmith เองก็เช่นกัน
พวกเขาต้องการ ที่จะเผยแพร่ดนตรีเพื่อชีวิต บวกกับความร่วมสมัย เนื้อร้องที่แฝงข้อคิด หรือสะท้อนสังคมแบบ Coming of Age โดยเฉพาะกับวัยรุ่นไทยสมัยนี้ ตัวอย่างผลงาน เพลงแดงกับเขียว, Amazing Thailand
Three man down จุดเริ่มต้นของความฝัน กับเด็กมัธยมชาย 3 คน
จุดเริ่มต้นวงดนตรีเล็ก ๆ ของเด็กมัธยมที่ชอบเล่นดนตรี จบไปอย่างเงียบ ๆ และได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ในช่วงวัยมหาวิทยาลัย! ครั้งนี้มีถึง 5 คนด้วยกัน ก่อนที่จะมา อยู่กับค่ายยีนแล็บ ต้องบอกเลยว่า’ไม่ง่าย’ ผ่านการทะเลาะ ความล้มเหลวหลายครั้ง เพลงไม่ดังเท่าที่คิด
จนจุดพลิกผันเกิดขึ้น เมื่อเพลงฝนตกไหม ที่ทำให้คนรู้จักเป็นวงกว้าง และสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเพลงหลังจากนั้น ที่ถูกใจและติดหูคนฟัง ไปที่ไหนก็ได้ยิน รวมไปถึงตัวตนชัดเจนของ ศิลปิน แต่ละคน ตัวอย่างผลงาน ฝนตกไหม, ถ้าเธอรักฉันจริง (ส่วนตัวชอบตั้งแต่เพลงแรก ๆ เลยแฮะ)
Tilly Birds คิด (แล้วก็) ถึง ประสบความสำเร็จด้วยแนวเพลง Alternative Rock เสียงร้องเป็นเอกลักษณ์
Tilly Birds มีที่มาจากการผวนคำ เติร์ดและบิลลี่ คู่ซี้เพื่อนสนิท ตั้งแต่สมัยมัธยม ที่มีใจรักในเสียงดนตรี จึงอยากจะทำวงขึ้นมา และเล่นกันมาเรื่อย ๆ เฉพาะเพลงภาษาอังกฤษ ซึ่งภายหลังได้ชักชวน ไมโลมือกีตาร์ เข้ามาร่วมทางด้วย
และเปิดใจในการทำเพลงไทย จนมีฐานแฟนคลับเล็ก ๆ ก่อนที่จะได้มีโอกาส เข้ามาร่วมทีม ในค่ายยีนแล็บ! ตัวอย่างผลงาน เพลง คิดแต่ไม่ถึง, เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน
Commander วงร็อกเลือดสาด ซาวด์ดนตรีมัน แทงใจดำเก่งที่สุด
Gene Lab วง นี้สไตล์ร็อกชัดเจน มีสมาชิกทั้งหมด 5 คนด้วยกัน (จาก 4 คน) เน้นเรื่องราวทางดนตรี ไปทางความรัก ที่อกหักเจ็บปวด ตัวอย่างผลงาน กอดสุดท้าย, ภักดีกว่า
และเนื่องจากเป็น วงดนตรีอิสระ จึงแสดงออกด้านการเมือง ได้อย่างชัดเจน ทำให้ได้ใจ กลุ่มคนรุ่นใหม่ยิ่งกว่าเดิม เราจะเห็นว่า แต่ละวงก็มีเอกลักษณ์ ที่แตกต่างกันไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งสไตล์ดนตรี และรูปแบบดนตรี แต่เวลาที่รวมตัวกัน กลับกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก
ยีนแล็บจึงกลายเป็น ห้องทดลองที่ทำให้ ศิลปินแข็งแกร่ง มีอัตลักษณ์ชัดเจน และเป็นที่ยอมรับ สู่วงการตลาดเพลง โดยไม่ต้องเสียตัวตนไปเลย
เรียบเรียงโดย M.Varin