แหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเพลง และดนตรี แนะนำเพลงใหม่ ประวัติวงดนตรีต่าง ๆ ทั้งในไทย และต่างประเทศ ที่น่าสนใจ

ศิลปะยุคกลาง เป็นการสร้างสรรค์โดย คริสต์ศาสนิกชนส่วนใหญ่ ซึ่งมีความมั่นคง กันอย่างมากทาง เศรษฐกิจและศิลปวิทยา อย่าง ภาพวาดศิลปะยุคกลาง

ศิลปะยุคกลาง ที่ได้ทำให้ เกิดการย้อนรอยตามหา ศิลปะยุคกลาง แนวคิด ของคนในยุคนั้น

ถ้าหากว่ามี การที่พูดถึง เรื่องของศิลปะ ในยุคกลางก็ต้อง มีความเข้าใจ ตรงกันว่าเป็นศิลปะ ยุคกลางของทาง โลกตะวันตก ที่มีบางครั้ง ที่มีบรรดา นักประวัติศาสตร์ อยากจะพยายาม ให้ความหมายของ ศิลปะแบบนี้ว่าเป็น ศิลปะยุคกลาง

ที่แบ่งออกเป็น แต่ละสมัย ก็น่าจะอยู่ ที่ประมาณปี ค.ศ 300 – ค.ศ. 1300 จึงได้ทำให้ ส่วนใหญ่คิดว่า น่าจะมาจาก อิทธิพลของ พวกคริสเตียน ที่อยู่ในยุคแรก ๆ แต่เมื่อได้มา ตามหากันที่ ความเจริญขีดสุด ของศิลปะ ในยุคนี้แล้ว ก็น่าจะพูด ได้ว่าเป็นยุคที่ ศิลปวิทยา ของยุคที่มี ความเจริญรุ่งเรือง กันมากที่สุด

ที่เห็นว่าเป็น รูปธรรมมากที่สุด ก็น่าจะเป็น เรื่องของการก่อสร้าง โดยเฉพาะที่ เกี่ยวกับโบสถ์ต่าง ๆ ที่มีความแตกต่าง กันออกไปตาม แต่ละถิ่นที่กำเนิด แต่ก็ไม่ได้เป็น ขนาดใหญ่อะไร ที่มากนักเพราะว่า ในสมัยนั้น นิยมสร้างด้วยหิน และปูผิวด้วยอิฐ

ซึ่งศิลปะ ในยุคนี้นั้น นักโบราณคดี พอจะกำหนดได้ว่าเป็น ศิลปะยุคกลาง แบบโกธิค ที่ได้ฟื้นฟู ศิลปวิทยา ของศิลปะ บารอก และ รอกโกโก

เป็นสิ่งที่มี คุณค่าสูงมาก ในปัจจุบัน พอที่จะให้ เราได้เข้าใจ ถึงศิลปะ ในยุคนั้นได้ ก็พอจะหลงเหลือ ให้เราได้ทราบกันบ้าง ดังต่อไปนี้ครับ

เป็นศิลปะ ในยุคกลางที่ มีค่าควรเมือง แบบประมาณค่ามิได้

ศิลปะยุคกลาง

1. ภาพกำเนิดอาดัม สำหรับภาพนี้ เข้าใจว่าน่า จะอยู่ในช่วงปี ค.ศ. 1508 – ค.ศ. 1512 และภาพนี้เป็น ภาพจิตรกรรม บนฝาผนัง ที่ได้วาดไว้ เพื่อการตกแต่ง ที่เพดานของโบสถ์ ซิสทีน เป็นการวาดภาพ ปูนเปียกหรือที่ ได้เรียกกันว่า Fresco

คือเป็น ศิลปะยุคกลาง ของการเขียนภาพ ในขณะที่ ปูนยังไม่แห้ง นั่นเองนะครับ เพื่อจะต้องการ ให้เกิดความคงทน เพราะมั่นใจว่า เมื่อได้วาดไป ในตอนนั้นแล้ว สีก็ได้ซึม เข้าไปในเนื้อ ของปูนนั่นเอง ซึ่งในภาพนี้ เป็นภาพที่ได้ อิงเอาเนื้อหา ที่มีอยู่ใน พระคัมภีร์ไบเบิ้ล ของหนังสือฉบับแรก ปฐมกาล

ซึ่งเป็นตอนที่ ได้บอกเราว่า พระผู้เป็นเจ้าได้สร้าง มนุษย์คนแรก ด้วยการที่พ่น ลมหายใจแห่งชีวิต ให้แก่อาดัม และจะเห็นว่า มือของอาดัม เกือบจะสัมผัสกับพระหัตถ์ ของพระเจ้าเป็น ภาพวาดศิลปะยุคกลาง ที่โดดเด่นและ งดงามอย่างมาก

ภาพบันลือโลก ที่เป็นตำนาน อย่างมากมายหลายชาติ

ศิลปะยุคกลาง แบบโกธิค

2. ภาพโมนาลิซา ภาพนี้ก็น่า จะเกิดขึ้นเมื่อ ประมาณปี ค.ศ.1503 – ค.ศ. 1505 และเป็นภาพที่นักวาด คนดังระดับโลกอย่าง เลโอนาร์โด ดา วินซี เป็นรูปภาพที่ เป็นสีน้ำมัน ที่ได้บรรจง วาดไว้อยู่บน ผืนผ้าใบขนาด 30.5 X 21 นิ้วที่นับว่า เป็นภาพบันลือโลก

ที่เป็นตำนาน เล่าขานกันไปต่าง ๆ นานาที่เราจะต้อง ยอมรับกันว่า ภาพนี้เป็นภาพ ที่ได้ถ่ายทอด การเลียนแบบของ ธรรมชาติได้ ดีอย่างยอดเยี่ยม ที่ได้มีความ พิถีพิถัน ในการจัดท่าทาง ของบุคคลในรูปภาพ ได้อย่างลงตัว และสวยงามมาก

แถมได้ทำให้ ฉากทางด้านหลัง ที่วาดออกมา ให้เป็นมิติ ที่มีความใกล้และไกล ที่เป็นการเลียนแบบ Perspective และจากภาพนี้ ก็เลยทำให้ เลโอนาร์โด ดา วินซี เป็น ศิลปินในยุคกลาง

ที่ได้สรรค์สร้าง งานศิลปะ ที่เป็นระดับโลก และได้กลายเป็นผู้ที่มี ความคิดริเริ่ม ในการวาดภาพ ในแบบที่เป็น การแสดงค่าที่ ตัดกันระหว่าง ความมืดและความสว่างหรือ – ภาษานักศิลปะ ต่างเรียกกันว่า การจะทำให้ มีแสงและเงา ที่งดงามนั่นเอง

3. รูปสลักรูปดาวิด เป็นศิลปะของ การแกะสลักหินอ่อน ที่เกิดขึ้นปี ค.ศ. 1501 – ค.ศ. 1504 รูปปั้นแกะสลักนี้ มีความสูงอยู่ที่ 13 ฟุต 5 นิ้ว เป็นศิลปะของ ทางกรีกและโรมัน ทำให้รูปนี้ เป็นรูปที่มี หน้าตาค่อนไปทางกรีก และโรมันมากกว่า

สำหรับจุดเด่น ศิลปะตะวันตกยุคกลาง ของรูปแกะสลัก ก็คือตั้งใจ ที่อยากจะให้ มีความสมบูรณ์ ของรูปร่างที่มีซิกแพค ที่สำคัญก็คือ สามารถจะจัด ท่วงท่าที่ดูแล้วงดงาม ไม่ได้น่าเกลียด ด้วยการที่ยืน แบบที่ลงน้ำหนัก ที่ขาทางด้านขวา และให้ขาที่อยู่ ทางด้านซ้ายงอเล็กน้อย

การจัดท่าแขนและมือ ก็ดูดีและ เป็นสง่าอย่างมาก ที่ดูแล้วก็จะเหมือน และใกล้เคียงกันกับ มนุษย์ผู้ชาย คนหนึ่งเลยทีเดียว คนที่ได้เห็น ก็ได้บอกว่า ดูแล้วเห็นเป็น ท่วงท่าของความ เด็ดเดี่ยวและกล้าหาญ

นับเป็นอีกหนึ่ง ของศิลปะที่ อลังการงานสร้าง และมีมูลค่า มากที่สุดในยุคนั้น

ภาพวาดศิลปะยุคกลาง

4. ศิลปะบาโรก ยุคนี้ก็เป็น ในยุคของปี ค.ศ. 1580 – ค.ศ. 1750 สำหรับยุคนี้ เข้าใจกันว่า เป็นยุคที่เน้น ไปที่ศิลปะ ความอลังการ ของการแสดงออก และต้องการเรียกร้อง ความสนใจของ ทางด้านศาสนา จะเป็นได้ว่า เป็นการตกแต่ง ในแบบที่ฟุ้งเฟ้อ เกินพอดีไปสักหน่อย

อย่างที่เราเห็นได้ง่าย ๆ กันเลยก็คือ พระราชวังแวร์ซายส์ นั้นก็ถือเป็น สถาปัตยกรรมยุคกลาง ที่ได้มีการ สร้างขึ้นมาใน รัชสมัยของพระเจ้าหลุยที่ 14 ของฝรั่งเศส ที่ตอนนั้นได้ ใช้เงินไปถึง 500 ล้านฟรังส์ครับ

เป็นสถานที่ ที่จะสามารถ บรรจุคนเข้าไป ได้เป็นหมื่นคน กันเลยทีเดียว เป็นไปได้ว่า ต้องการจะสร้างขึ้นมา เพื่อจะประกาศ พระบารมี ให้เกรียงไกรนั่นเอง

เน้นที่หลักของ ศาสนาเพื่อ กระตุ้นให้เป็นคนดี ตามพระคัมภีร์ทำให้ ศิลปะยุคกลาง ในตอนนั้นเป็น ยุคที่รุ่งเรืองมากที่สุด

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังจะมี ศิลปะที่ ได้เรียกกันว่า ศิลปะยุคกลาง แบบไบแซนไทน์ ด้วยเป็นการได้รับ อิทธิพลมาจาก ทางโรมันล้วน ๆ ที่เรามักจะสังเกต กันได้ง่าย ๆ ก็คือพวกของ อาคารที่เป็นโดม กันเป็นส่วนใหญ่ นั่นเองนะครับ สำหรับจิตรกรรมของ ไบแซนไทน์

ส่วนใหญ่แล้วนั้น ก็จะเป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกันกับ ศาสนาคริสต์ และก็เป็นเรื่องราว ที่เกี่ยวข้องกันกับ พระเยซู กันเป็นส่วนใหญ่ หรือว่าเป็นพวก เหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่ได้มีอยู่ใน พระคัมภีร์ไบเบิ้ล

และมักจะมี ประดับประดาด้วยกระเบื้อง ที่เคลือบสีต่าง ๆ ก็เลยได้เป็น ที่มาของคำว่า กระเบื้องโมเสค ที่มีความสวยและคงทน เพราะสีของกระเบื้อง จะไม่ซีดง่าย ๆ กันนั่นเองครับ

นั่นหมายถึงว่า ศิลปะตะวันตกยุคกลาง ที่ยังอยู่ในยุคกลางนั้น ก็มักจะเป็น งานศิลปกรรม ที่มักจะมี พวกเนื้อหาและรูปแบบ ที่ส่วนใหญ่นั้น ก็จะมุ่งเน้นกันไปที่ ศาสนาคริสต์ เป็นหลักที่ได้ ทำให้เกิดการสร้าง พวกรูปเคารพ กันอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระรูปของ พระเยซูคริสต์ พระแม่มารีย์ และบรรดานักบุญต่าง ๆ

ที่ได้ทำกัน ออกมาในแบบ ที่ไม่ได้เน้น เรื่องความสวยงาม เหมือนจริงมากนัก แต่ส่วนใหญ่นั้น ก็จะเน้นกัน ไปที่เนื้อหา และต้องการจะให้ คนทำความดี กันเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ศิลปะ ในยุคนี้ก็เลย เป็นศิลปะที่ทำให้ เกิดความเข้าใจ ในศาสนาคริสต์ กันมากยิ่งขึ้น นั่นเองนะครับ

บทความพิเศษ ศิลปะ

—*—อ้ายตัวกลม